4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นที่สื่อกีฬาของอังกฤษเล่นข่าวอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเหล่าแฟนบอลปีศาจแดงทั่วโลก จะเป็นประเด็นใดไม่ได้ นั่นคือเรื่องของแฮร์รี่ แม็คไกวร์กองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของโลก ที่มาพร้อมดีกรีทีมชาติอังกฤษ กับปัญหาฟอร์มการเล่นในสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ว่าเพราะอะไรถึงมีฟอร์มออกทะเลอย่างน่าใจหาย เหตุใดการที่เขาเข้ามาสู่ทัพปีศาจแดงนั้น

แมนยูไนเต็ด เป็นทีมที่ผิดมาตรฐานอย่างมากตลอดทั้งซีซั่น ที่ปัจจุบันยังคงรั้งอันดับต่ำกว่า 5 อันดับแรก กับการลุ้นพื้นที่ไปยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ ที่มีโอกาสริบหรี่อย่างมาก ด้วยผลงานโดยรวมที่ย่ำแย่อย่างมาก ถูกวิจารณ์อย่างมากในทุก ๆ นัด ไล่ตั้งแต่ กองหน้าที่ทำสกอร์น่าผิดหวังในหลายจังหวะ กองกลางที่ไม่สามารถสร้างสรรค์เกม เก็บบอลได้ในแบบที่ควรจะเป็น และแย่ที่สุดคือกองหลังที่มักจะทำหลุด ทำเสีย เป็นหลุมให้คู่แข่งเจาะประตูได้ในหลาย ๆ เกม เก็บคลีนชีตไม่ต้องพูดถึง

แม็คไกวร์กัปตันทีมทัพผีแดง กลายเป็นเป้าโจมตีอย่างหนัก พร้อมรับฉายาปราการหลังสายคอนเทนต์ เขามีจังหวะผิดพรากให้เห็นในทุกนัด ไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นเรื่องผิด เป็นประเด็นคอนเทนต์ ยืนเฉย ๆ ฟุตบอลก็วิ่งหาเข้าประตูฝั่งตัวเอง หรือยกขาสกัดบอลสกอร์เปี้ยนคิก ของแฮรี่ แม็คไกวก็ไปโดนศีรษะพอลป็อกบาเพื่อนร่วมทีมเลือดสาดกันไป เพื่อนพระเจ้ากำลังแกล้งเขาหรือปล่าว ทำไมถึงไร้ศักยภาพที่ควรมีดีกว่านี้ กับผลงานของทีมรั้งอันดับ 5 เสียประตูมากที่สุดใน 8 อันดับหัวตาราง มาวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้เลย

1.เขารับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้

4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ย้ายจากเลสเตอร์ ซิตี้ มาสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2019 – 2020 ด้วยค่าตัวกองหลังที่แพงสุดในโลก 80 ล้านปอนด์ อีก 6 เดือนต่อมา โซลชานายใหญ่ในเวลานั้นแต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีมทันที ในฤดูกาลนั้นเขาเองอาจยังไม่เป็นที่โจมตีของแฟนบอลมากเท่าไหร่นัก ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่ได้เละเทะเหมือนกับปัจจุบันนี้ เจ้าตัวก็ยังสามารถลงสนามครบ 38 นัด ต่อมาในฤดูกาล 2020 – 2021 เขาก็ยังทำผลงานได้ตามมาตรฐานแมนยูจบอันดับรองจ่าฝูง

จุดเปลี่ยนขอเขามันอยู่ที่ฤดูกาลถัดมา ภายใต้การคุมทีมของโซลชาที่มีฟอร์มการเล่นตกลงไปอย่างน่าใจหาย เจ้าตัวก็เช่นกันฟอร์มหลุดไปอย่างมาก ขนาดการเสริมทัพอย่างวารานเพิ่มเข้ามาก็ตาม มีทั้งจังหวะส่งผิดพลาด โดนตัดบอล และการปรับเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่ มีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น ทำให้การยืนตำแหน่งที่ห่างจากแผงมิดฟิลด์ได้ไม่ได้ดีพอของแม็คไกวร์นั้นผิดพลาดอยู่ประจำ ซึ่งเขาพบกับช่วงเวลาการปรับตัวให้เข้ากับระบบที่ยากลำบากอย่างมาก

2.ความกดดันในฐานะกัปตันทีม

4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลแรกที่เขาก้าวเข้ามาแห่งโอลแทร็ฟฟอร์ด ที่ตอนนั้นแอชลีย์ยังสวมปลอกแขนกัปตันทีม ผลงานของ แม็คไกวร์ก็ไปได้เป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ เมื่อแอชลีย์ยังถูกปล่อยออกไป ไม่ว่าจะเหตุผลอย่างไรโซลชาเลือกให้ความไว้วางใจกับเขาให้ได้รับปลอกแขนกัปตันทีมคนต่อไปน่าจะเป็นผู้นำได้อีกยาวไกล แต่การได้รับบทบาทนี้มันไม่ได้อย่างนั้นเสมอไป ที่มาพร้อมแรงกดดันอย่างมหาศาลเหมือนที่เขาได้รับอยู่ จึงเชื่อกันว่าเขามีความกดดันมากเกินไป ปลอกแขนนั้นหนักเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถเค้นฟอร์มการเล่นที่เคยดีอย่างมากกลับมาได้

3.ได้ลงสนามต่อเนื่อง ทั้งที่สภาพจิตใจที่ไม่พร้อม

4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

นักเตะฟอรมไม่ดีส่วนมากมีอยู่สองทางเลือก ไม่ดร็อปเป็นตัวสำรอง หรือเลือกเข็นลงสนามเพื่อให้เรียกฟอร์มเก่งมาให้ได้ ซึ่งกรณีของแฮร์รี่ แม็คไกวร์ไม่แน่ใจว่าต้นสังกัดมัวกังวลถึงเรื่องค่าตัว หรือบทบาทกัปตันทีมมากเกินไปหรือไม่ ถึงได้ไม่เคยดร็อปเขาเห็นกันเลย ซึ่งเป็นที่วิจารณ์อย่างชัดเจนของเหล่านักเตะเก่า ๆ อย่างวิดิชปราการหลังระดับตำนาน “ กล่าวถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่อย่างมากของแม็คไกวร์ แต่กลับได้รับลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักเตะมักเจอปัญหาถึงฟอร์มการเล่นนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ควรมีการพักสลับหมุนเวียนให้เล่นเกมหนักบ้าง เกมเบาบ้าง ให้เขาได้ปรับตัวและพร้อมเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง “

4.ถูกประเมินคุณภาพมากเกินไป

4 ประเด็นวิเคราะห์ถึงฟอร์มการเล่นสุดบู่ของแฮร์รี่ แม็คไกวร์

โลกฟุตบอลจะมีอยู่ 2 คำ underrate – overrate คือนักเตะที่มีคุณภาพมากกว่าคำกล่าวขาล กับนักเตะที่มีฟอร์มการเล่นที่ยังไม่ถึงเกณฑ์แต่กลับได้รับคำยกย่องที่มากเกินไป อย่างเช่นแม็คไกวร์ในปัจจุบัน ที่เขาเป็นความหวังในการสร้างทัพแห่งอนาคตของผีแดง ที่หวังว่าแม็คไกวร์จะพาทีมไปสู่มาตรฐานที่ทีมเคยมีอย่างสูงมาก่อน จึงเป็นเหตุถึงการทุ่มเงินซื้อตัวในราคาระดับโลกเข้ามา ยังไม่พอกับการให้บทบาทกัปตันทีมที่เร็วเกิน กลับเป็นจุดที่ทำให้นักเตะคนนี้ ถูกตั้งคำถามว่าความสามารถของเขา กับค่าตัวระดับนี้มันเหมาะสมหรือปล่าว มาเอาใจช่วยให้ปราการหลังผู้นี้กลับไปมีผลงานที่เฉิดฉายเป็นความหวังของทัพปีศาจแดงให้ได้ต่อไป

รู้หรือไม่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ย้ายมาร่วมทัพ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์

รู้หรือไม่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ย้ายมาร่วมทัพ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์

แม็กไกวร์ อดีตนักเตะของฮัลล์ที่ตกชั้นพรีเมียร์ลีกไปเมื่อฤดูกาล 2016-2017 และด้วยฟอร์มการเล่นที่เข้าเลสเตอร์ ซิตี้ จึงคว้าตัวมาร่วมทัพ เมื่อช่วงต้นซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัวประมาณ 17 ล้านปอนด์ ก่อนทำผลงานได้ดีวันดีคืน ติดทีมชาติอังกฤษ รวมถึงพาทีมเลสเตอร์ผงาดคว้าแชมป์ลีกไปครองได้ในประวัติศาสตร์ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควักเงินสถิติโลกไปครองมากถึง 80 ล้นปอนด์

REF :

  1. https://www.youtube.com/watch?v=o2u3ottqIiY
  2. https://www.tnnthailand.com/news/epl/104385/
  3. https://www.mendetails.com/life/-harry-mcguire-manu-aug19/